Best browsers เบราว์เซอร์ที่ดีที่สุดเพื่อความเป็นส่วนตัว และที่สุดของความปลอดภัย 2021 ตอนที่ 2

 

9. Chromium

Chromium เป็นโอเพนซอร์ซพื้นฐานของ Chrome  ถูกพัฒนาโดย Google มีเป้าหมายเพื่อสร้างวิธีที่ปลอดภัยและเร็วขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขั้นพัฒนาก่อนที่จะเป็น Chrome web browser ความถี่ในการอัปเดตของ Chromium นั้นไม่มีใครเทียบได้ โดยจะมีการอัปเดตใหม่ทุกวัน วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแก้ไขช่องโหว่ในทันทีที่ปรากฏขึ้น แต่การอัปเดตต้องมีการติดตั้งด้วยตนเอง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ปลายทางจะต้องระมัดระวังเพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด

 

นอกจากนี้ยังมีบราวเซอร์อันตรายอื่นๆ ที่อยู่บนพื้นฐาน Chromium ให้หาดาวน์โหลดได้บนอินเตอร์เนต ซึ่งอาจมีมัลแวร์แฝงมาเพื่อขโมยข้อมูลของคุณด้วยป๊อปอัป หรือการเปลี่ยนเส้นทางที่ไม่ต้องการ

 

Chromium พร้อมใช้งานสำหรับ Windows, macOS, Linux และ Android
คะแนน (out of 5): ⭐⭐⭐

 

 

---

 

 

8. Safari

Safari ทำได้ค่อนข้างดีในแง่ของการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ของคุณ มีฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ แต่มีประโยชน์มากมาย เช่น ตัวสร้างรหัสผ่าน โหมดการท่องเว็บแบบส่วนตัวที่ใช้ DuckDuckGo เป็นค่าเริ่มต้น Machine learning based protection, Anti-fingerprinting tools นอกจากนี้ยังเรียกใช้แท็บของคุณในแซนด์บ็อกซ์แยกต่างหาก ซึ่งช่วยป้องกันโค้ดที่เป็นอันตรายที่สร้างความเสียหายให้กับเบราว์เซอร์ทั้งหมดหรือการเข้าถึงข้อมูลของคุณ อย่างไรก็ตาม Apple ซึ่งเป็นเจ้าของ Safari ถูกจับได้ว่ากำลังรวบรวมประวัติการท่องเว็บของผู้ใช้แม้ว่าพวกเขาจะใช้การท่องเว็บแบบส่วนตัวก็ตาม ดังนั้นคุณลักษณะนี้จึงไม่น่าเชื่อถือ 100%

 

Safari ใช้เฟรมเวิร์ก Webkit แบบโอเพ่นซอร์ส แต่สิ่งนี้ถูกจำกัดให้ทำหน้าที่เป็นเอ็นจิ้นการเรนเดอร์ ส่วนที่เหลือของ Safari เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถดูโค้ดและสิ่งที่อาจซ่อนอยู่ในนั้นได้

 

Apple ยังเข้าร่วมในโครงการ PRISM ของ NSA ซึ่งรวบรวมการสื่อสารจากบริษัทอินเทอร์เน็ตในสหรัฐอเมริกา นี่เป็นธงสีแดงเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผลิตภัณฑ์

Safari พร้อมใช้งานสำหรับ macOS และ iOS
คะแนน (out of 5): ⭐⭐⭐

 

---

7. FreeNet

FreeNet เป็นแพลตฟอร์มเพียร์ทูเพียร์ที่ออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เอียน คลาร์ก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสื่อสารที่ป้องกันการเซ็นเซอร์ เนื่องจากใช้เครือข่ายแบบกระจายอำนาจและการเข้ารหัสเพื่อเก็บและส่งข้อมูล นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ฟรีเพื่อรักษาความลับ โหมดการทำงานของมันเตือน Tor Browser เนื่องจากมีเครือข่าย Freenet ของตัวเองพร้อมเนื้อหาที่เข้าถึงได้โดยเบราว์เซอร์นี้เท่านั้น

 

Freenet ยังสามารถใช้สำหรับแชร์ไฟล์โดยไม่ระบุชื่อได้อีกด้วย ไฟล์จะถูกแบ่งออกเป็นอนุภาคขนาดเล็กและเก็บไว้ในโหนดเครือข่าย Freenet หลายโหนด อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดจะช้ากว่าเมื่อคำขอส่งผ่านโหนดตัวกลางเพียงไม่กี่โหนดเพื่อรักษาความไม่เปิดเผยตัวตน

 

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ OpenNet และ Darknet Opennet ทำงานในลักษณะเดียวกับ Darknet ข้อแตกต่างคือการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้แบบสุ่มที่เปิดใช้งานฟังก์ชัน Opennet แทนที่จะเป็นผู้ที่รู้จักกัน

 

ด้วย Freenet คุณสามารถเปิดได้เฉพาะ Freesites ซึ่งโฮสต์อยู่บนเครือข่ายเท่านั้น สามารถมีได้เฉพาะเนื้อหาแบบคงที่เนื่องจากแบนด์วิดท์ที่ช้ากว่า ดังนั้น Freenet จึงเป็นโซลูชันป้องกันการเฝ้าระวังขั้นสูง ซึ่งอาจซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

 

Freenet พร้อมใช้งานสำหรับ Windows, macOS, Linux (ข้ามแพลตฟอร์ม)
คะแนน (out of 5): ⭐⭐⭐⭐

 

---

6. Vivaldi

ด้วยอินเทอร์เฟซและฟังก์ชันที่ปรับแต่งได้สูง หลายคนมองว่า Vivaldi ที่ใช้ Chromium เป็น based เบราว์เซอร์ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ระดับสูง

 

ตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายขยายไปสู่การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Vivaldi เช่นกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกเสิร์ชเอ็นจิ้นเริ่มต้นและการตั้งค่าอื่นๆ มากมายที่ส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นที่แตกต่างกันเมื่อคุณใช้โหมดการท่องเว็บแบบปกติและแบบส่วนตัว และสร้างการตั้งค่าความปลอดภัยที่แตกต่างกันสำหรับเครื่องมือค้นหาทั้งสอง

 

แม้ว่า Vivaldi จะเสนอการเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับการซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ แต่ยังไม่มีการรองรับอุปกรณ์พกพา เนื่องจากโครงสร้างของมัน มันจึงเข้ากันได้กับส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome ส่วนใหญ่ สิ่งนี้มีทั้งดีและไม่ดี เนื่องจากสามารถให้ฟังก์ชันการทำงานและความปลอดภัย แต่ยังสามารถแนะนำมัลแวร์ได้อีกด้วย

Vivaldi พร้อมใช้งานสำหรับ Windows, macOS, Linux และ Android

คะแนน (out of 5): ⭐⭐⭐⭐

 

 

 

ที่มา  : Best Browsers for Privacy and Security 2021 [Top 12] | NordVPN