ป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบด้วยเทคโนโลยี Deep Learning
2021.07.09
CONTENTS
Cyber attack ที่มากขึ้นจากสถานการณ์ COVID-19
จากการระบาดทั่วโลกของ COVID-19 ทำให้เหล่า Hacker ได้ออกมาโจมตีมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการ lockdown และมาตรการ social distancing ของทั่วโลก ทำให้ธุรกิจทั้งหลายต้องหยุดโครงการต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีและพนักงานได้มีเวลาเตรียมตัวกับการเริ่มทำงานจากที่บ้าน
ในปี 2020 เนื่องจาก COVID-19 ทำให้ cyberattack ได้มีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับการเพิ่มมากขึ้นของ cybercrime โดยคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 400% ด้าน Microsoft รายงานว่าในสหรัฐอเมริกา การโจมตีแบบ phishing และ social engineering พุ่งสูงขึ้นเป็น 30,000 ต่อวัน ส่วนนักวิจัยด้านภัยคุกคามกล่าวว่า ransomware attacks เพิ่มขึ้นถึง 800 %
เราป้องกัน สิ่งที่คนอื่น ป้องกันไม่ได้
ระบบ Deep Instinct พร้อมป้องกันภัยคุกคามภายใต้สถานการณ์ที่เราพบเห็นในปัจจุบันจากการโจมตีและการทำงานที่ซับซ้อนของมัลแวร์รูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี Deep Learning ขั้นสูงมาใช้กับโลกของ Cybersecurity ทำให้เราสามารถคิดค้นระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง มากกว่าที่ระบบดั้งเดิมจะสามารถตรวจจับได้ เพื่ออุดจุดอ่อนของโครงสร้างระบบป้องกันภัยทางไซเบอร์
สามารถตรวจจับภัยคุกคามบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามที่รู้จัก (Known Threat), ภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก ( Unknown Threat ) และภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (Zero-day Threats) โดยสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้ทั้งส่วนที่เป็นเซิร์ฟเวอร์, มือถือ, เน็ตเวิร์ก และ PC, Laptop ต่าง ๆ จากรูปแบบการโจมตีทั้ง File-based และ Fileless ได้
กระบวนการป้องกันภัยคุกคามด้วยเทคโนโลยี Deep Learning นั้น สามารถช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบ Zero-Time Attack โดยสามารถตรวจจับและระงับการโจมตีก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับข้อมูลขององค์กร อีกทั้งยังสามารถช่วยระบุรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำอีกด้วย
DEEP GEN ERA
เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี Deep Learning กับ Machine Learning จากโซลูชั่นอื่นๆ ที่ทำงานด้าน Cyber Security แล้วนั้นทาง Deep Instinct ได้ทุ่มเททรัพยากรและเวลาให้กับการคิดค้น ระบบ Deep Learning ที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการดูแลข้อมูลขององค์กรอย่างทั่วถึงต่อภัยคุกคามที่มีการวิวัฒนาการอยู่อย่างต่อเนื่องได้
การเรียนรู้แบบสมองมนุษย์กลไก ของเทคโนโลยี Deep Learningได้ถูกนำมา ประยุกต์ใช้ต่อการเรียนรู้ จัดประเภทข้อมูล และ การทำงานของเครื่อง Endpoint ที่เป็นภัยคุกคาม (Malicious) ในระดับ มิลลิวินาที ผลที่ได้รับคือภัยคุกคามไม่ว่าจะเป็นKnown Threat, Unknown Threat,
Zero-day Threats, First seen malware, Ransomware และการโจมตีจากกลุ่ม APT นั้นสามารถตรวจจับวิเคราะห์ และ ตอบสนองได้ในรูปแบบ Zero-time
เมื่อเปรียบเทียบการใช้งานของระบบป้องกันทั่วไป กับระบบที่ใช้งานด้วยกลไกของ Deep Learning ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าและมี False positive ที่ต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด
Deep Instinct ทำสิ่งที่โซลูชั่นอื่น ทำไม่ได้
โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่คุณควรใช้คือโปรแกรมที่คุณสามารถพึ่งพามันได้ตลอดเวลา แม้ว่าการป้องกันแบบ 100% จะยังเป็นไปไม่ได้ แต่สมรรถภาพการป้องกันของ Deep Instinct นั้นล้าหน้ากว่าคู่แข่งอยู่หลายก้าว เรามั่นใจว่าสามารถมอบโอกาสให้ธุรกิจของคุณสามารถดาเนินต่อไปได้ ไม่ว่าภัยคุกคามใดๆจะพยายามโจมตีคุณ
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการทดลองใช้งานฟรี
ติดต่อคุณมารุต โทร 084-3616079
E-mail : marut@a2network.jp
บทความที่เกี่ยวข้อง
กฎหมาย
ความปลอดภัย
กองทัพอิสราเอลแฮ็คเครือข่ายการสื่อสารของหอควบคุมสนามบินเบรุต
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้เจาะเครือข่ายการสื่อสารหอควบคุมการบินสนามบินนานาชาติ Rafic Hariri ในเบรุต ประเทศเลบานอน
2024.10.03
ข่าว
ความปลอดภัย
มัลแวร์ Octo2 ตัวใหม่คุกคามความปลอดภัยของธนาคารบนมือถือ
นักวิจัย ThreatFabric พบว่าตัวแปรนี้ลดเวลาแฝงได้อย่างมากระหว่างเซสชันการควบคุมระยะไกล แม้ภายใต้สภาวะเครือข่ายที่ไม่ดีก็ตาม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูล นอกจากนี้ Octo2 ยังบูรณาการเทคนิคการบดบังขั้นสูง รวมถึงอัลกอริทึมการสร้างโดเมน (DGA) ซึ่งทำให้มัลแวร์สามารถเปลี่ยนที่อยู่เซิร์ฟเวอร์คำสั่งและการควบคุม (C2) แบบไดนามิก ทำให้การตรวจจับมีความท้าทายยิ่งขึ้น
2024.09.27
ข่าว
ความปลอดภัย
ตำรวจสิงคโปร์จับกุมแฮกเกอร์ 6 รายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ระดับโลก
ชายทั้ง 6 คน อายุระหว่าง 32-42 ปี ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ "กลุ่มอาชญากรระดับโลก" ที่ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ จากปฏิบัติการดังกล่าว ทางการได้ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเงินสดได้ นอกจากนี้ ชายสัญชาติสิงคโปร์ยังถูกตั้งข้อหาสนับสนุนการเข้าถึงเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องรับโทษปรับไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (3,830 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้กระทำผิดครั้งแรก
2024.09.12