ธนาคารของประเทศอิหร่านกำลังเผชิญกับการโดนโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่
2024.08.20
ธนาคารของประเทศอิหร่านกำลังเผชิญกับการโดนโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่
มีรายงานว่าธนาคารกลางแห่งประเทศอิหร่าน (Central Bank of Iran : CBI) ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพร้อมกับธนาคารอื่น ๆ อีกหลายแห่งในประเทศ
ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายภายในระบบการเงินของอิหร่าน ซึ่งจากรายงานของ Iran International ระบุว่าขนาดและผลกระทบของการโจมตีครั้งนี้อาจเป็นหนึ่งในการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดที่โครงสร้างพื้นฐานของประเทศอิหร่านเคยเผชิญมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าแฮกเกอร์ยังสามารถขโมยข้อมูลของเจ้าของบัญชีออกไปได้อีกด้วย รวมทั้งมีการโน้ตข้อความที่ตู้ ATM ซึ่งมีข้อความว่า “เรียนคุณลูกค้า คุณไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ เนื่องจากงบประมาณและทรัพยากรของชาติของอิหร่านทั้งหมด ถูกนำไปลงทุนในการทำสงคราม เพื่อประโยชน์ของระบอบการปกครองที่ทุจริตของสาธารณรัฐอิสลาม”
การโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ขู่ที่จะตอบโต้ต่อการเสียชีวิตของอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่ามีแฮกเกอร์ชาวอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นครั้งนี้ด้วย
ขอบคุณครับ
บริษัท a2network (Thailand ) จำกัด
ติดต่อ : 02-261-3020 , 062-590-1693
บทความที่เกี่ยวข้อง
ข่าว
ความปลอดภัย
มัลแวร์ Octo2 ตัวใหม่คุกคามความปลอดภัยของธนาคารบนมือถือ
นักวิจัย ThreatFabric พบว่าตัวแปรนี้ลดเวลาแฝงได้อย่างมากระหว่างเซสชันการควบคุมระยะไกล แม้ภายใต้สภาวะเครือข่ายที่ไม่ดีก็ตาม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูล นอกจากนี้ Octo2 ยังบูรณาการเทคนิคการบดบังขั้นสูง รวมถึงอัลกอริทึมการสร้างโดเมน (DGA) ซึ่งทำให้มัลแวร์สามารถเปลี่ยนที่อยู่เซิร์ฟเวอร์คำสั่งและการควบคุม (C2) แบบไดนามิก ทำให้การตรวจจับมีความท้าทายยิ่งขึ้น
2024.09.27
ข่าว
บริการใหม่
โปรโมชั่น
สรุปข่าวลือ iPhone 16 Series มีอะไรใหม่บ้าง มีจำหน่ายแล้ววันนี้ !
2024.09.24
ข่าว
ความปลอดภัย
ตำรวจสิงคโปร์จับกุมแฮกเกอร์ 6 รายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ระดับโลก
ชายทั้ง 6 คน อายุระหว่าง 32-42 ปี ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ "กลุ่มอาชญากรระดับโลก" ที่ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ จากปฏิบัติการดังกล่าว ทางการได้ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเงินสดได้ นอกจากนี้ ชายสัญชาติสิงคโปร์ยังถูกตั้งข้อหาสนับสนุนการเข้าถึงเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องรับโทษปรับไม่เกิน 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (3,830 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้กระทำผิดครั้งแรก
2024.09.12