Trojan คืออะไร? ตอนที่2

Trojan ปิดบังตัวเองว่าเป็นโปรแกรมหรือไฟล์ที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของคุณและดำเนินการที่เป็นอันตรายได้ ในขณะที่ไม่มีใครอยากถูกแฮ็ก ผู้คนนับล้านตกเป็นเหยื่อของอาชญากรทุกปี ไวรัสโทรจันทำงานอย่างไร และที่สำคัญกว่านั้น คุณจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

 

---

จะตรวจจับ Trojan อย่างไร?

อาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าคุณมีโทรจันบนอุปกรณ์หรือไม่ แต่ถ้าคุณประสบปัญหาใด ๆ ที่กล่าวถึงด้านล่าง นั้นหมายถึงอาจมีแขกที่ไม่ต้องการ:

 

– ป๊อปอัปและคำเตือนว่าคุณมีไวรัสปรากฏขึ้น

– คอมพิวเตอร์ทำงานช้าและเกิดปัญหาในบางครั้ง

– บางโปรแกรมอาจไม่ทำงานหรือเปิดขึ้นมาเอง

– กำลังถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังไซต์ที่น่าสงสัย

– พบโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ของคุณที่จำไม่ได้ว่าติดตั้ง

– เบราว์เซอร์เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับความยินยอม

 

---

วิธีกำจัดโทรจัน

1. ตัดการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้แฮกเกอร์ไม่สามารถสั่งการจากระยะไกลได้อีก
2. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ในเซฟโหมด
3. ตรวจสอบแอปทั้งหมดที่ทำงานอยู่เบื้องหลังและออกจากแอปที่เป็นอันตราย
4. ตรวจรายการแอปและลบรายการที่ไม่รู้จัก
5. สแกนคอมพิวเตอร์ด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
6. ติดตั้งเบราว์เซอร์ใหม่

 

---

วิธีป้องกันตัวเองจากโทรจัน

ไม่มีใครสามารถปลอดภัยจากม้าโทรจันได้ 100% และเราแต่ละคนสามารถตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยซอฟต์แวร์บางอย่างและสามัญสำนึกบางประการ สามารถลดความเสี่ยงที่จะติดไวรัสได้ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสองสามข้อเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองจากโทรจันและมัลแวร์อื่นๆ:

 

1. อัปเดตซอฟต์แวร์ตรงเวลาเสมอ แฮกเกอร์มักใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ ในขณะที่นักพัฒนาพยายามแก้ไข หากคุณเลื่อนการอัปเดต อาชญากรอาจติดตัวผ่านช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ได้รับการแก้ไขเมื่อหลายเดือนก่อน

 

2. อย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยในอีเมลหรือข้อความ อีเมลฟิชชิ่งเป็นวิธีการหลักในการรับมัลแวร์บนอุปกรณ์ของคุณ อย่าคลิกลิงก์เว้นแต่จะรู้จักและเชื่อถือผู้ส่ง

 

3. อย่าคลิกไฟล์แนบ ไฟล์แนบอีเมลเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการส่งมัลแวร์ แต่หลายคนไม่ผ่านการทดสอบนี้

 

4. หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ทอร์เรนต์ มัลแวร์สามารถมาพร้อมกับโปรแกรมหรือไฟล์อื่น ๆ ได้ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงการใช้ไซต์ทอร์เรนต์ เนื่องจากคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร ติดกับร้านแอปอย่างเป็นทางการ

 

5. สร้างรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำ การมีรหัสผ่านเดียวกันสำหรับทุกบัญชีนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กร่วมกับอักขระพิเศษและตัวเลขในรหัสผ่านของคุณ

 

6. เปิดใช้งานการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย(2FA) เมื่อใดก็ตามที่ทำได้ ให้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยเสมอ เพราะจะเป็นการเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับบัญชีของคุณ

 

7. ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส แม้ว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยแบบเนทีฟ แต่การมีโปรแกรมป้องกันไวรัสเพิ่มเติมนั้นไม่ใช่ความคิดที่แย่อย่างแน่นอน

 

8. หนีจากเว็บไซต์ที่น่าสงสัย หากเว็บไซต์เริ่มโจมตีด้วยโฆษณาแปลก ๆ ให้ออกไปทันที คลิกโดยไม่ได้ตั้งใจ และอาจจบลงด้วยฝูงม้าโทรจันหรือแอดแวร์

 

9. สแกนอุปกรณ์ภายนอกก่อนเรียกใช้ USB ไดรฟ์ภายนอกที่ติดไวรัสเป็นวิธีที่ทราบกันดีในการถ่ายโอนมัลแวร์จากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ดังนั้นให้เรียกใช้การสแกนความปลอดภัยก่อนเสมอ

 

10. ใช้ VPN เครือข่ายส่วนตัวเสมือนเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณและซ่อนที่อยู่ IP ของคุณ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของคุณ มีประโยชน์อย่างยิ่งบน Wi-Fi สาธารณะ เนื่องจากแฮกเกอร์สามารถตั้งค่าฮอตสปอตปลอมและทำให้อุปกรณ์ของคุณติดเชื้อจากระยะไกลได้

 

ที่มา : https://nordvpn.com/blog/what-is-a-trojan/